จับแท็กซีหื่น จะขืนใจพยาบาลสาว ใช้ไหวพริบเอาตัวรอด ทำทีขอให้ไป-ม่านรูด ฉวยโอกาสวิ่ง

รวบแท็กซี่โจรหื่นเมาไอซ์งัด คัตเตอร์จี้ชิงทรัพย์สาวที่เรียกไป ส่งสถานีขนส่งหมอชิต เพื่อกลับบ้านช่วงสงกรานต์ พาขับรถวนเวียนในที่เปลี่ยว จากนั้นบังคับเข้าไปในพงหญ้าพยายามขืนใจ แต่สาวออกอุบายให้พาไปม่านรูดดีกว่า แท็กซี่โจรหลงกลจับมัดมือไพล่หลัง ปิดปาก เหยื่อได้จังหวะขณะลงไปจ่ายเงินค่าห้องวิ่งออกมาให้พนักงานช่วย ส่วนแท็กซี่ตกใจขับรถหนี ตำรวจ สภ.บางกรวยตามรวบได้ขณะหนีไปปฏิบัติธรรมที่ระยอง รับสารภาพอ้างเมาไอซ์แล้วอยากได้เงินไปจ่ายค่าเช่ารถ


เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 เม.ย. ที่ สภ.บางกรวย พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.นนทบุรี พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ภักดีณรงค์ รอง ผบก. พ.ต.อ.วีรยุทธ ประสานนาม ผกก.สภ.บางกรวย พ.ต.ท.ธรรศกร ก้อนทอง รอง ผกก.สส. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายปฏิวัติ หรือป๋อง บุญเสงี่ยม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 14 ต.สรงยาง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.229/2559 ลงวันที่ 14 เม.ย.2559 พร้อมด้วยของกลาง เงินสด จำนวน 8,000 บาท พระเลี่ยมทอง จำนวน 1 องค์ รถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ทร 6793 กทม.

โดยกล่าวหาว่าชิงทรัพย์โดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดเพื่อพา ทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพ, พาอาวุธไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร โดยจับกุมตัวได้ที่วัดปิปผลิวนาราม ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง


พล.ต.ต. สุศักดิ์กล่าวว่า เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 13 เม.ย. น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ผู้เสียหาย อาชีพพยาบาล ได้เรียกรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีฟ้า ทะเบียน ทร 6793 กทม. ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ริมถนนเพชรเกษม กทม. ให้ไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิตเพื่อกลับบ้านต่างจังหวัด เมื่อผู้เสียหายขึ้นนั่งบนรถแท็กซี่บริเวณเบาะหลังเยื้อง ผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาได้ขับรถแท็กซี่ไปตามถนนเพชรเกษมตัดเข้าถนนราชพฤกษ์ ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปภายในซอยวัดสังฆทาน ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยว

โดยผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นทางลัด แล้วใช้มีดจี้บังคับให้ผู้เสียหายส่งมอบเงินให้จำนวน 4,000 บาทที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ แต่ผู้เสียหายส่งให้เพียง 2,000 บาท ส่วนอีก 2,000 บาท ผู้เสียหายขอ เพราะจะกลับบ้านต่างจังหวัด


ผบก.นนทบุรี กล่าวต่อว่า จากนั้นผู้ต้องหาได้ใช้มีดจี้บังคับให้ผู้เสียหายลงจากรถแล้วบังคับให้เดิน เข้าไปในพงหญ้า ก่อนจะลงมือข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย แต่ไม่สำเร็จ ผู้เสียหายจึงได้ออกอุบายให้ผู้ต้องหาพาไปโรงแรมม่านรูด ผู้ต้องหาได้ถอดเสื้อเชิ้ตของผู้เสียหายมัดมือไพล่หลังไว้ แล้วปรับเบาะให้นอนราบใช้เสื้อมัดปากและเอาหมวกปิดตาไว้จากนั้นได้ขับรถพา เข้าไปในโรงแรมฟอร์ยูอินน์ ในพื้นที่ สภ.บางกรวย ระหว่างที่ผู้ต้องหาลงไปชำระเงินค่าห้อง ผู้เสียหายได้อาศัยจังหวะนั้นลงจากรถและวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือจากพนักงาน ของโรงแรม

ผู้ต้องหาจึงวิ่งขึ้นรถแล้วขับหนีออกจากโรงแรมไปโดยมีโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง กระเป๋าเสื้อผ้าและกระเป๋าเงินของผู้เสียหาย ติดไปกับรถแท็กซี่ หลังเกิดเหตุพนักงานโรงแรมได้พาผู้เสียหายมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย จนสามารถติดตามตัวผู้ต้องหาขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่วัดปิปผลิวนารามในจังหวัด ระยอง


ด้านนายปฏิวัติ หรือป๋อง แท็กซี่หื่นกาม กล่าวว่า ตนไม่ได้นอนมา 3 วัน เนื่องจากเสพยาไอซ์เข้าไป วันเกิดเหตุตนต้องการจะหาเงินมาจ่ายค่าเช่าแท็กซี่ที่ค้างไว้ และหาเงินมาซื้อเบียร์กินเนื่องในวันสงกรานต์ จนมาพบผู้เสียหายเรียกให้ไปส่งที่หมอชิต จึงวางแผนขับรถเข้าไปในซอยเปลี่ยว ก่อนจะใช้มีดคัตเตอร์จี้ขู่บังคับให้ผู้เสียหายส่งเงินมาให้หมด หลังจากได้เงินแล้วตนเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงบังคับให้ผู้เสียหายลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในป่าหญ้าเพื่อข่มขืน แต่ไม่สำเร็จ ก่อนที่ผู้เสียหายจะหลอกให้ตนพามาที่ม่านรูด

โดยที่ตนได้มัดมือผู้เสียหายไพล่หลัง ปิดปาก ปิดตา เมื่อมาถึงโรงแรมม่านรูดตนจึงได้ขับรถแท็กซี่เข้าไปจอดด้านในม่านรูด แล้วเดินมาจ่ายเงินค่าห้องพักที่เคาน์เตอร์ เนื่องจากเกรงว่าพนักงานม่านรูดจะเห็น ขณะกำลังจ่ายเงินอยู่นั้นผู้เสียหายได้วิ่งมาร้องขอความช่วยเหลือกับพนักงาน โรงแรม ด้วยความตกใจตนจึงรีบขึ้นรถแล้วขับหลบหนีออกมา โดยนำเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปทิ้งตามจุดต่างๆ ก่อนจะหนีไปปฏิบัติธรรมที่วัดปิปผลิวนาราม ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวได้ ต้องขอโทษผู้เสียหาย และขอโทษเพื่อนแท็กซี่ในสิ่งที่ทำลงไป เนื่องจากเมายา และต้องการเงินไปใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ จึงลงมือก่อเหตุ
ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1461376414