Ads (728x90)




เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้จับกุมตัวนายเอ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ชาว ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังตกเป็นผู้ต้องหาข่มขืนนางบี (นามสมมติ) แม่ของตนเอง อายุ 62 ปี ซึ่งอยู่บ้านเดียวกัน มาสอบปากคำที่ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง เบื้องต้น ผู้ต้องหายังไม่ยอมรับสารภาพ



โดยอ้างว่า เมื่อคืน ที่ผ่านมา ออกไปดื่มสุราและกลับเข้าบ้านเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. คืนวันที่ 30 มี.ค. โดยได้กลับมาทานข้าวที่มารดาได้หุงและทำกับข้าวไว้ให้จนอิ่มแล้วออกไปดื่ม สุราต่อจนกระทั่งกลับเข้าบ้านตอนดึก แล้วเข้านอน และรุ่งเช้าได้ออกไปเดินเล่นนอกบ้านโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า เช้าวันที่ 31 มี.ค.เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ผู้ต้องหาได้กลับเข้าบ้านด้วยอาการมึนเมาสุราและข่มขืนมารดาซึ่งนอนหลับอยู่ ในห้องนอนจนสำเร็จความใคร่ พร้อมขู่จะฆ่าให้ตายหากนำเรื่องนี้ไปบอกกับเพื่อนบ้าน จนกระทั่งรุ่งเช้ามารดาจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.ห้วยยอด เพื่อให้ดำเนินคดีกับลูกชายในไส้อย่างถึงที่สุด


ปกติแล้วบ้านที่เกิดเหตุจะมีเพียงผู้เสียหายกับผู้ต้องหาอยู่กันเพียง 2 คน โดยพบพฤติกรรมของผู้ต้องหานั้นชอบเข้าฟิตเนส  เพื่อมองหญิงสาวหน้าตาดีรูปร่างดีแล้วแอบถ่ายภาพนำมาโพสลงในเฟสบุ๊กส่วนตัว ซึ่งเคยมีภรรยาแล้วหลายคนแต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยู่ด้วยกันได้นาน ซึ่งตามประวัติเคยถูกจับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกายและลักทรัพย์ต้องขังในเรือน จำเพิ่งพ้นโทษเมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จนกระทั่งเมาสุราแล้วมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ทำให้ผู้เป็นแม่นั้นช้ำใจและได้รับความอับอายเป็นอย่างมาก แต่จำเป็นต้องมาแจ้งความเนื่องจากกลัวว่าลูกชายจะลงมือข่มขืนซ้ำอีกหรืออาจ ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต



ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (1 เม.ย) ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จะนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจสภาพจิตและหาสารเสพติดอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรง พยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงความไม่ปลอดภัยของผู้เสียหาย
ซึ่งร.ต.อ มนตรี  สงคง  ร้อยเวรสภ.ห้วยยอด จ.ตรัง กล่าวว่า ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ภายในสวนปาล์มน้ำมันห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ในช่วงเที่ยงวันนี้ แต่ผู้ต้องหายังไม่ยอมรับสารภาพ ขณะที่มารดาแจ้งว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เนื่องจากมีการข่มขู่มารดา และเกรงว่าหากออกไปจะไปทำร้ายมารดาอย่างแน่นอน ขณะนี้ก็มีตำรวจสายตรวจเข้าไปดูแลผู้เสียหาย เพื่อสร้างความอุ่นใจแล้ว
ที่มา:http://www.siamupdate.com/news-181993

Post a Comment