เรื่องราวเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีก่อนเมื่อเธอกับสามีต้องออกจากบ้านที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียชั่วคราว เพื่อกลับไปร่วมงานศพแม่เลี้ยงที่บุรุนดี โดยได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงบุจุมบุรา และจู่ๆในช่วงเย็น บาเลงก้าก็โทรศัพท์มาหาเธอ แล้วบอกให้เธอออกไปเดินเล่นสูดอากาศข้างนอก แต่พอออกไปแล้ว ก็มีชายฉกรรจ์ปรี่เข้ามาหาและเอาปื้นจี้ พร้อมขู่ว่าอย่าร้อง มิฉะนั้นจะโดนฆ่าทิ้ง หลังจากนั้นโนเอล่าก็ถูกพาตัวขึ้นรถโดยมีผ้าติดตาไปยังตึกแห่งหนึ่ง และถูกจับมัดกับเก้าอี้ที่นั่น
ต่อมากลุ่มคนร้ายถามเธอว่า “รู้หรือไม่ว่าไปทำอะไรมา ผู้ชายคนนี้ถึงจ้างเรามาฆ่าเธอ?” โนเอล่าตอบกลับไปด้วยความงุนงงสุดขีดว่าไม่รู้เรื่อง คนร้ายจึงบอกว่า สามีเธอคือคนจ้างให้มาฆ่า ซึ่งในตอนแรกโนเอล่าไม่เชื่อ หาว่าเป็นเรื่องโกหก จนกระทั่งเมื่อคนร้ายพูดโทรศัพท์ต่อหน้า และมีเสียงบาเบงก้าลอดออกมาจากโทรศัพท์ว่า “ฆ่าเธอซะ”
แต่สถานการณ์กลับพลิกตารปัตร เพราะหลังจากนั้นอีก 2 วัน กลุ่มคนร้ายปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระไว้ริมถนน เพราะฆ่าผู้หญิงไม่ลง และยังรู้จักกับน้องชายของเธอด้วย แต่จะไปโกหกสามีเธอว่าฆ่าเรียบร้อยและรับเงินค่าจ้าง 7,000 เหรียญดอลลาร์ออสเตรเลีย แล้วให้เธอกลับไปจัดการกับสามีเองว่าจะทำอย่างไร
ด้านโนเอล่าสุดหวาดผวากับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่รีบตั้งสติไปขอความช่วยเหลือจากทั้งสถานทูตเบลเยียมและเคนย่าเพื่อที่จะได้กลับออสเตรเลีย เมื่อกลับไปได้ เธอไปพบบาทหลวงที่โบสถ์ในหมู่บ้านแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้พังพร้อมกำชับอย่าบอกเรื่องนี้กับสามีเธอ และบาทหลวงก็พาโนเอล่าไปอาศัยอยู่ที่บ้านของเพื่อนบ้านรายหนึ่ง
ส่วนตัวบาเลงก้า หลังจากโดนกลุ่มที่เขาจ้างวานหลอกว่าฆ่าภรรยาเรียบร้อยแล้ว ก็แต่งเรื่องโกหกคนในชุมชนว่า โนเอล่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ก่อนจัดงานศพให้ที่บ้าน โดยที่ไม่รู้เลยว่าโนเอล่ายังมีชีวิตอยู่ และกำลังดักรอพบเขาอยู่ที่หน้างานศพเพื่อสะสางเรื่องราว
หลังจากที่แขกในงานทยอยกลับ โนเอล่าก็เห็นสามีเธอ จึงรีบโผล่ไปประจันหน้าทันที ก่อนโนเอล่าจะพูดโพล่งออกไปว่า “เป็นไงล่ะ? ตกใจมั้ย? ไม่ใช่ผีหรอกนะ ฉันยังอยู่ดี” ทำเอาบาเลงก้า ช็อกตกใจมาก และพยายามขอโทษ อ้อนวอนให้โนเอล่าให้อภัย แต่ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว เพราะหลังจากนั้นโนเอล่าโทรเรียกตำรวจ บาเลงก้าจึงถูกจับตัวไป และถูกตัดสินจำคุก 9 ปี
ที่มา : flagfrog /khaosod
Post a Comment